โครงการ “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” ในกรอบของนโยบายรัฐบาลเพื่อไทย: มาพร้อมเงื่อนไขที่ปรับปรุงและคำถามที่ประชาชนอยากทราบ ว่าสามารถซื้อสินค้าประเภทใดบ้าง?
โครงการ “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่รัฐบาลเพื่อไทย ซึ่งนำร่องโดย นายเศรษฐา ทวีสิน และทีมที่รับผิดชอบด้านการคลัง ได้สร้างขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน และเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากช่วงเวลาที่ฟื้นฟูนาน นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการพัฒนาระบบ Blockchain ที่จะมาเล่นบทบาทในการเงินของประเทศไทย โดยประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศแรกที่มีระบบนี้
เรื่องของ “เงินดิจิทัลวอลเล็ต” หรือ “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” นี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปิดประตูให้กับวิถีดิจิทัล แต่พรรคเพื่อไทยยังมองเห็นศักยภาพในการสร้างตลาดทุนขนาน และยังมีแผนการตั้งสำนักงานดิจิทัลเพื่อควบคุมดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต
สำหรับประชาชนที่มีความสนใจในการลงทะเบียน “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” ซึ่งเรียกว่า “การแจกเงินหมื่น” ข่าวล่าสุดนำเสนอว่า ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน แต่จะต้องผ่านกระบวนการยืนยันตัวตนผ่านระบบ KYC และรับสิทธิ์ ส่วนผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการรัฐบาลในอดีต ก็ไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวตนอีก ส่วนผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์กับระบบ จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ และต้องรอการพัฒนาแอปพลิเคชัน หรือ Super app ที่รัฐบาลกำลังจะสร้างขึ้น
ในส่วนของเงื่อนไขการแจก “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” จะเน้นไปที่ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป ที่จะได้รับเงินผ่าน “เงินดิจิทัลวอลเล็ต” ที่รัฐบาลสร้างขึ้นในระบบ Blockchain ซึ่งนำไปสู่การชำระเงินแบบใหม่ และการเปิดประเทศในยุคดิจิทัล นอกจากนี้ผู้ที่มีสวัสดิการพิเศษ เช่น คนพิการหรือคนชรา ก็จะได้รับเงินเต็มจำนวน
เกี่ยวกับเรื่องที่เงินดิจิทัลสามารถแลกเป็นเงินสดได้หรือไม่ ตอบคือไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ แต่จะต้องใช้ผ่านแอปพลิเคชันของรัฐบาล และในกรณีที่แอปพลิเคชันมีปัญหา สามารถชำระผ่านหมายเลขประจำตัวประชาชนและโค้ดส่วนตัว
เรื่องของการใช้ “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” ประชาชนสามารถใช้ภายในระยะ 4 กิโลเมตร จากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน และจะต้องใช้ภายใน 6 เดือน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ทีเดียว หรือจะเป็นการใช้ทยอย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในเรื่องสินค้าและบริการต่างๆ
เกี่ยวกับร้านค้าที่รับ “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” ร้านค้าที่มีการยื่นภาษี หรือ จ่ายภาษี จึงสามารถแลกเป็นเงินสดได้ แต่ร้านค้าที่ไม่มีการจ่ายภาษี จะไม่สามารถแลกเงินได้ แต่สามารถใช้เพื่อซื้อสินค้าวัตุดิบเข้าร้าน
และในสุดท้าย นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้กล่าวถึงโครงการนี้ว่า จะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และจะเดินหน้าดำเนินการ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เสนอมา